วิธีเลือกใช้วิตามินกับปัญหาผิว
สำหรับสาวๆที่มีปัญหาผิวหน้าทั้งหลาย ไม่ว่าปัญหาจุดด่างดำ ริ้วรอย กระ ฝ้า ฯลฯ เชื่อว่าสาวๆเคยใช้ครีมที่มีสรรพคุณบอกว่ารักษาปัญหาผิวต่างๆได้ เช่น ใครมีปัญหาจุดด่างดำ เลยซื้อครีมที่มีสรรพคุณลดรอยจุดด่างดำได้ แต่พอใช้แล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย จุดด่างดำยังเหมือนเดิม
สาวๆรู้ไหมค่ะว่า การใช้ครีมหน้าใสที่มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆอาจไม่เหมาะกับปัญหาผิวของคุณก็เป็นไปได้ค่ะ สำหรับวันนี้เรามีวิธีเลือกใช้วิตามินกับปัญหาผิว มาแนะนำสาวๆทั้งหลายค่ะ มาดูกันเลยค่ะว่ามีปัญหาผิวแบบไหน ควรใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินใดบ้างค่ะ
สาวๆรู้ไหมค่ะว่า การใช้ครีมหน้าใสที่มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆอาจไม่เหมาะกับปัญหาผิวของคุณก็เป็นไปได้ค่ะ สำหรับวันนี้เรามีวิธีเลือกใช้วิตามินกับปัญหาผิว มาแนะนำสาวๆทั้งหลายค่ะ มาดูกันเลยค่ะว่ามีปัญหาผิวแบบไหน ควรใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินใดบ้างค่ะ
วิธีเลือกใช้วิตามินกับปัญหาผิว
- วิธีเลือกใช้วิตามินกับปัญหาผิว
- สาวๆที่มีปัญหาริ้วรอย รอยตีนกา "ควรเลือกใช้วิตามินเอ" การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล หรือ เรตินเอ ซึ่งเป็น วิตามินเอชนิดหนึ่ง ก็สามารถลดริ้วรอยจาง ๆ ของผิวได้ โดยมีผลการ วิจัยจาก วารสารของสมาคมแพทย์ผิวหนังของสหรัฐ ล่าสุด ยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลเอ ในปริมาณเพียง 1 % ก็เพียงพอ ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้โครงสร้างของผิวมีความ ยืดหยุ่นดีขี้น และช่วยลดริ้วรอยของวัยได้ แต่เครื่องสำอางโดยทั่วไป มักมี เรตินอลเอ ในปริมาณ 0.05-0.5 % จึงอาจทำให้เห็นผลได้ช้าขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงควรตรวจสอบว่า มีเรตินอลเอ อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่
- สาวๆที่มีปัญหาผิวบางแพ้ง่าย "ควรเลือกใช้ วิตามินบี3" มีผลการศึกษาที่ลงพิมพ์ในวารสาร the Journal of Applied Cosmetology ระบุว่า วิตามินซี มีผลดีต่อผิวโดยทำหน้าที่เหมือน สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีของแสงแดด รวมทั้งมลภาวะต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิด กระ จุดด่างดำบนผิวหน้า รวมทั้ง อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ แต่อย่างไรก็ตาม การจะได้ผลิตภัณท์ที่มี ส่วนผสมของวิตามินซี ให้ได้ผลนั้น ลิตภัณฑ์ดังกล่าว ควรมีวิตามินซี ผสมอยู่ในปริมาณ 10 % หรือสูงกว่า และควรใช้ทุกวันก่อนออกจากบ้าน เหมือนกับการใช้ครีมป้องกันแดด
- สาวๆที่มีปัญหาผิวแห้ง หยาบกร้าน "ควรเลือกใช้ วิตามินอี หรือวิตามินบี5 "วิตามินทั้งสองชนิดนี้ มักจะรู้จักดีว่า เป็นเสมือนสารมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แต่วิตามินอียังทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ได้ดีอีกด้วย แต่ผลการวิจัยจาก มหาวิทยาลัยไมอามี เมื่อเร็ว ๆนี้ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินที่มีขายกันในตอนนี้ ยังไม่มี ผลดีต่อการลดริ้วรอย แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำให้ใช้วิตามิน เพื่อเพิ่ม ความชุ่มชื้นให้แก่ผิวมากกว่าที่จะหวังผลในด้านช่วยลดริ้วรอยของวัย
- สาวๆที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา "ควรเลือกใช้วิตามินเค เรตินอลเอ หรือวิตามินซี " วิตามินเค จะช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงทำให้สีผิว บริเวณนี้หายคล้ำลงได้ และมีผลการวิจัยล่าสุด พบว่า การใช้วิตามินเค 1 % ผสมกับ เรตินอลเอ ปริมาณ 0.15 % จะมีผลดีต่อการลดรอยคล้ำ ใต้ตาได้อย่างชัดเจนขึ้น แต่ก็อาจจะเกิดปัญหาระคายเคืองได้บ้าง Jeffrey Blumberg ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย Tufts บอกว่า วิตามินซี ก็ช่วยแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตาได้ดีเช่นกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น